เชลซี ทีมดังจากประเทศอังกฤษก็ไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวังกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกไปได้ด้วยการเอาชนะทีมจากเมืองกาแฟไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยเป็นการได้รับชัยชนะที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์เลยทีเดียวเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถครองแชมป์สโมสรโลกได้ ซึ่งจะพาทุกท่านไปเจาะลึกประเด็นสำคัญที่น่าสนใจกับเหตุการณ์นี้กันจะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย 

โรมัน อบราโมวิชเก็บถ้วยแชมป์ครบทุกรายการ

หลังจากที่โรมัน อบราโมวิชเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2003 เขาก็ใช้เวลา 13 ปีในการทุ่มงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้ทีมเชฺลซีได้มีฟอร์มการเล่นที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดเลยทีเดียว โดยถ้าหากนับย้อนหลังไปทั้งหมด 13 ปีจะพบว่าทางทีมเชลซีได้คว้าแชมป์ไปเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรปาลีก, ยูฟ่า ซูปเปอร์คัพและอื่นๆอีกมากมาย ยกเว้นแค่เพียงแต่ฟีฟ่าคลับเวิร์ลคัพเท่านั้น

นักเตะที่ครองประวัติศาสตร์ของ เชลซี

อาบูดาบี อัซปิลิกวยต้า เป็นหนึ่งในนักเตะของทีม เชลซี ที่อยู่ร่วมลงแข่งกับสโมสรเป็นระยะเวลายาวนานมากกว่า 10 ปีเลยทีเดียว ซึ่งได้ครองแชมป์ครบทุกรายการแล้ว อาทิเช่น แชมป์สโมสรโลก แชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ แชมป์เอฟเอคัพซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกจาลึกในประวัติศาสตร์เลยทีเดียวว่าเป็นคนแรกที่ได้ร่วมครองแชมป์ไปพร้อมกับสโมสรเชลซีอย่างยาวนาน

กุนซือทีมตัดสินใจได้ถูกต้องแม้จะเสี่ยงก็ตาม

สำหรับชัยชนะในครั้งนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับกุนซือคนเก่งอย่าง โธมัส ทูเคิ่ลซึ่งเพิ่งจะรักษาตัวหายจากอาการโควิด 19 ก็บินมาเพื่อคุมทีมลงเล่นในการแข่งขันครั้งนี้ในทันที โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในทีมจนทำให้ทีมสามารถเอาชนะการแข่งขันในครั้งนี้ได้ และต้องยอมรับว่าจากการแข่งขันที่ผ่านมาเขาเป็นกุนซือที่วางฟอร์มการเล่นและตำแหน่งรวมถึงกลยุทธ์ต่างๆออกมาได้เป็นอย่างดีและสร้างความพึงพอใจให้กับหลายๆท่านอีกด้วย ใครที่เป็นแฟนทีมนี้หรือติดตามผลงานมาอยู่ตลอดเวลาก็คงจะเห็นฟอร์มการเล่นในแต่ละนัดกันแล้วว่ามีการพัฒนาอยู่สม่ำเสมอ

จากการที่ทีมสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกได้ก็เป็นอีกหนึ่งข่าวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะจะแสดงให้เห็นเลยว่าในการแข่งขันหลังจากนี้ทีมไหนที่เคยสบประมาททีมก็คงต้องเตรียมตั้งรับกับฟอร์มการเล่นที่ดุเดือดและความมั่นใจที่มากกว่าเดิมกันได้เลย

ติดตามข่าวสารทีมอื่นได้ที่ pacificsc.org

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เยอร์เกน คล็อปป์ ลงสนามในเกมเอฟเอคัพ รอบที่ 4 พวกเขาเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ คาร์ดิฟ ซิตี้  ทีมอันดับที่ 20 จากเดอะแชมป์เปียนชิพ และพวกเขาเป็นฝ่ายเข้าวินด้วยสกอร์ 3-1 โดยได้ประตูจาก ดีโอโก้ โซต้า ในนาทีที่ 53 , ทาคูมิ มินามิโนะ ในนาทีที่ 68 และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ในนาทีที่ 76 ฝั่งทีมเยือนได้จาก รูบิน โคลวิลล์ ในนาทีที่ 80

จากชัยชนะในเกมนี้ ส่งให้ “หงส์แดง” ผ่านเข้าสู่รอบที่ 5 (16 ทีมสุดท้าย) ไปพบกับ นอริช ซิตี้ ทีมอันดับ 18 ที่เอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตั้น 1-0 โดยจะแข่งขันในวันที่ 2 มีนาคม

ลิเวอร์พูล ส่งตัวหลักลงเพียบ

แม้ผู้มาเยือนจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย ทว่า ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้ประมาท พวกเขาส่ง เวอร์กิล ฟาน ไดค์ , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมไปถึง ดีโอโก้ โซต้า และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ลงไปประคองทีม โดยให้โอกาส เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ (GK 2) , อิบราฮิม่า โคนาเต้ , คอนสแตนตินอส ซิมิคาส รวมไปถึง ทาคูมิ มินามิโนะ ได้โอกาสลงสนามเป็น 11 คนแรก ทางฝั่ง คาร์ดิฟ ส่ง เจมส์ คอลลิ่น , มาร์ค แฮร์ริส และ มาร์ลอน แพ็ค เป็น 3 แนวรุก

ดีโอโก้ โซต้า ซัดหาย! ลิเวอฺร์พูล 1-0

เกมในช่วง 45 นาทีแรก ลิเวอร์พฺูล ยังใส่สกอร์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังผ่านไปแค่ 8 นาที พวกเขาสร้างโอกาสยิงครั้งที่ 12 (คาร์ดิฟ 2) ซึ่งจากสัมผัสบอลครั้งที่ 71 ของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นแอสซิสต์ให้ ดีโอโก้ โซต้า ยิงให้ “หงส์แดง” ขยับออกนำ 1-0
ทาคูมิ ซัดด้วย! ลิเวอร์พูล 2-0

เกมเข้าสู่นาทีที่ 68 ช่วงนั้น ลิเวอร์พฺูล เป็นฝ่ายครองบอล 82.8% พวกเขาจ่ายบอล 612:130 ครั้ง สร้างโอกาสยิงครั้งที่ 16 (คาร์ดิฟฯ 2) ซึ่งจากสัมผัสบอลครั้งที่ 46 ของ ดีโอโก้ โซต้า เป็นแอสซิสต์ให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ทำประตูให้ “หงส์แดง” ขยับห่าง 2-0 นับเป็นประตูที่ 7 ในฤดูกาลนี้ ของดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น จากการลงสนาม 20 นัดรวมทุกรายการ (ตัวจริง 6 สำรอง 14)

ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิง! ลิเวอร์พูล 3-0

เกมเข้าสู่นาทีที่ 76 ช่วงนั้น ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองบอล 81.8% (คาร์ดิฟฯ 18.2%) พวกเขาจ่ายบอล 665:152 ครั้ง แบ่งเป็นการจ่ายบอลสำเร็จ 593:81 ครั้ง สร้างโอกาสยิงครั้งที่ 18 ซึ่งจากสัมผัสบอลหนที่ 7 ของ แอนดรู โรเบิร์ตสัน เป็นแอสซิสต์ให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ทำประตูให้ “หงส์แดง” ทิ้งขาด 3-0 

ก่อนที่อีก 4 นาทีถัดมา คาร์ดิฟฯ จะมาได้ประตูปลอบใจ 1-3 จากการยิงของ รูบิน โคลวิลล์ ซึ่งมาจากโอกาสยิงครั้งที่ 3 ของพวกเขาในเกมนี้

ติดตามทีมอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ pacificsc.org

เอซี มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตกเป็นข่าวว่า มีโอกาสเซ็นสัญญา “เรนาโต้ ซานเชส” (Renato Sanches) มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ของ ลีลล์ มาร่วมทีมก่อนตลาดหน้าหนาวจะปิดตัวลงในราคาย่อมเยาไม่ถึง 500 ล้านบาท แต่ดันไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเหนื่อยกับตัวนักเตะได้ ทำให้การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น โดยตามการรายงานของสื่อของแดนมักกะโรนีระบุว่า เอเยนต์ของดาวเตะวัย 24 ปี เรียกค่าเหนื่อยมากกว่าปีละ 200 ล้านบาท ไม่รวมค่านายหน้าแสนแพงอีกด้วย 

เอซี มิลาน เกือบได้ตัว “เรนาโต้” ราคาแค่ 20 ล้านยูโร 

สปอร์ตอิตาเลีย สื่อดังของอิตาลีได้ออกมารายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน พลาดโอกาสได้ตัว “เรนาโต้ ซานเชส” กองกลางวัย 24 ปี ของ ลีลล์ สโมสรแกร่งในเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาร่วมทีมในราคาแค่ 20 ล้านยูโร หรือประมาณ 750 ล้านบาท ก่อนตลาดซื้อ-ขายเดือนมกราคมปิดตัวลง เนื่องจากเจอปัญหาเรื่องสัญญาส่วนตัวของนักเตะและเอเยนต์  โดยตามรายงานระบุว่า “จอร์จ เมนเดส” ซูเปอร์เอเยนต์คนดังที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของมิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสได้เรียกค่าเหนื่อยให้นักเตะของตัวเองสูงถึงปีละ 6 ล้านยูโร หรือประมาณ 220 ล้านบาท ไม่รวมค่านายหน้าแสนแพงอีกก้อนหนึ่งด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังพยายามใส่เงื่อนไขการฉีกสัญญาในกรณีที่มีทีมจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดต่อเข้ามา ทำให้ เอซีฺ มิลาน ไม่พอใจอย่างมากและตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะเจรจา เป็นเหตุให้ดีลล่มก่อนตลาดปิดทำการเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ทั้งนี้ เรนาโต้ ยังมีสัญญากับ ลีลล์ อีกเพียง 18 เดือน จนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ทำให้ให้ช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา เจ้าตัวมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมกับหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เอซีฺ มิลาน , ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งทางทีม “ตราหมา” ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะขายนักเตะออกจากทีม เพียงแต่ต้องได้ราคาที่เหมาะสมกับระยะเวลาสัญญาที่เหลือ

สำหรับ เรนาโต้ ซานเชส ย้ายจาก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งกับ ลีลล์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัวราว 25 ล้านยูโร หรือประมาณ 940 ล้านบาท ลงสนามรับใช้ต้นสังกัดไปแล้ว 79 ทำได้ 6 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ ส่วนผลงานในซีซันนี้เจ้าตัวลงเล่นรวมทุกรายการไป 20 นัด ทำได้ 1 ประตู กับ 3 แอสซิสต์

ติดตามข่าวสารได้ที่ pacificsc.org

เชลซี สโมสรเงินหนาประจำเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่า เตรียมที่จะซื้อขาด “ซาอูล ญีเกซ” (Saúl Ñíguez) กองกลางตัวยืมของ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด มาเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองหลังจบฤดูกาลนี้ แม้จะมีสาวก “สิงห์บลู” ในโลกโซเชียลมีเดียจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าวก็ตาม  ขณะที่สื่อดังเมืองผู้ดีได้ออกมาตีข่าวว่า ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนมีเงื่อนไขซื้อขาดดาวเตะวัย 27 ปี ที่ราคา 30 ล้านปอนด์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเฮดโค้ชอย่าง “โธมัส ทูเคิ่ล” ว่าต้องการเก็บเขาไว้ใช้งานในซีซันต่อ ๆ ไปหรือไม่

เชลซี กำลังพิจารณาซื้อขาด “ซาอูล” ที่ 30 ล้านปอนด์

เดลี่ สตาร์ สปอร์ต สื่อดังของอังกฤษได้ออกมารายงานว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี กำลังชั่งใจว่าจะเซ็นสัญญาถาวรกับ “ซาอูล ญีเกซ” มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ที่ยืมมาจาก “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลิกา สเปน หลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากมีเงื่อนไขซื้อขาดที่ 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,340 ล้านบาท แม้แผนการดังกล่าวจะสวนทางกับกระแสแฟนบอลในโลกโซเชียลมีเดียที่มองว่า ดาวเตะวัย 27 ปี โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง แม้ระยะหลังจะลดความผิดพลาดลง แต่ก็มีโอกาสลงสนามน้อยเกินกว่าจะเสี่ยงทุ่มเงินก้อนโตระดับนั้นเพื่อซื้อตัวมาร่วมทีม  แต่ทางด้าน ผู้จัดการทีมอย่าง “โธมัส ทูเคิ่ล” กลับชื่นชอบฝีเท้าของ ซาอูล อีกทั้งขุมกำลังในแผงมิดฟิลด์อย่าง จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, รอสส์ บาร์คลี่ย์ ก็เหลือสัญญากับทีมอีกแค่ปีเดียว ส่วน รูเบน ลอฟตัส-ชีค ก็มีแนวโน้มจะย้ายตามนายเก่าอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไป เอฟเวอร์ตัน  ส่งผลให้เทรนเนอร์ชาวเยอรมันอยากเก็บกองกลางชาวสแปนิชให้อยู่กับทีมต่อไปเพื่อกันเหนียว 

ทั้งนี้ ซาอูล ญีเกซ โดน เชลฺซี ยืมตัวจาก แอตฯ มาดริด มาใช้งานยังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ระยะแรกกลับโชว์ฟอร์มได้เข้าขั้นหายนะจากจังหวะเล่นผิดพลาดเองบ่อยครั้ง แม้ระยะหลังจะค่อย ๆ ลดความผิดพลาดลง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเท่าที่ควร ลงสนามรวมทุกรายการไป 14 นั ทำได้เพียง 1 แอสซิสต์ เท่านั้น

สำหรับ ซาอูล ญีเกซ ค้าแข้งอยู่กับ แอตฯ มาดริด ตั้งแต่เป็นนักเตะชุดเยาวชน ก่อนจะถูกดึงขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2011 ลงเล่นไปแล้ว 340 นัด ทำได้ 43 ประตู กับอีก 20 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ  ส่วนผลงานทีมชาติสเปน ลงเล่นไป 19 นัด ทำได้ 3 ประตู 

ติดตามข่าวสารได้ที่ pacificsc.org

”ลิเวอร์พูล” ทางด้านทีมเยือนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่นไปได้ชนิดไข่ไม่แตกด้วยสกอร์ 2-0 เก็บความได้เปรียบเอาไว้ในมือ ก่อนจะพบกันอีกครั้งนัดที่สองในสองสัปดาห์ถัดไป เพือตัดสินและหาผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป

     ทางด้านตัวผู้เล่นของนัดนี้ เจ้าบ้านทีมงูใหญ่ของกุนซือ”ซิโมเน่ อินซากี้”ส่ง”เอดิน เซโก้”ดาวยิงบอสเนียลงจับคู่กับ”เลาตาโร่ มาร์ติเนซ”กองหน้าอาร์เจนไทน์เพื่อทำประตูทีมเยือน ส่วนแดนกลางมี”อาตูร์ วิดัล”,”มาร์เซโล่ โบรโซวิซ”และฮาคาน ฮัลคาโนกลู”ลงบู๊ ทางด้านหงส์แดงภายใต้การนำทัพของ”เจอร์เก้นส์ คล็อปป์”ใช้งานสามประสาน”ซาดิโอ มาเน่”,”ดิโอโก้ โซต้า”และ”โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์”ผนึกกำลังช่วยกันในแดนหน้า และมี”ติอาโก้ อันคัลทาร่า”,”ฟาบินโญ่”กับดาวรุ่งวัย 18 ปี”ฮาร์เวย์ เอลเลียต”สร้างสรรค์เกมในแผงกองกลาง

“ลิเวอร์พูล” เหนือกว่าแต่ก็ยังทำสกอร์ไม่ได้

         เกมในครึ่งแรกเป็นทางด้าน “ลิเวอร์พูล” ที่ทำได้เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนทำประตูออกนำได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกกันไปด้วยสกอร์ 0-0 ครึ่งหลังหลังจากปรับแก้เกมกันลงมา หงส์แดงทำได้ดีกว่า ถึงนาทีที่ 75 พวกเขาก็ได้ประตูออกนำ 1-0 จากตัวสำรอง”โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่” และถึงนาทีที่ 83 ก็เป็น”โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์”สตาร์อียิปต์ดาวยิงประจำทีมที่จัดการซัดลูก 2-0 ได้สำเร็จ จากนั้นจนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน ไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก เป็นอันว่ากองทัพ หงส์แดง โชว์ฟอร์มหรู บุกมาเอาชนะ”อินเตอร์ มิลาน”ไปได้ก่อนที่สกอร์ 2-0

         และการแข่งขันนัดที่สองของคู่นี้ จะมีขึ้นกลางดึกของวันพุธที่ 9 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยผู้ชนะจากนัดนี้จะได้โอกาสกลับมาเป็นเจ้าบ้านเล่นที่”แอนฟิลด์”บ้าง พร้อมกุมความได้เปรียบไว้ด้วยสองประตูที่ทำได้จากชัยชนะในนัดนี้ ส่วนทางด้านผู้ปราชัยเจ้างูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน”ถือว่าเป็นงานระดับหนักอึ้งและท้าทายอย่างที่สุดของยอดทีมจากลีกแดนมักกะโรนี ซึ่งบรรดาเหล่าแฟนๆของทั้งสองทีมก็ไม่ควรพลาดนัดนี้ด้วยประการทั้งปวง จะต้องเป็นอีกหนึ่งนัดของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่สนุกสนานตื่นเต้นและมีรสชาติสุดระทึกขวัญอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติมที่ pacificsc.org

ปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”กลับสู่เส้นทางลุ้นอันดับ 4 เพื่อคว้าโควต้าไปเตะฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ฤดูกาลหน้า อย่างเต็มตัว ในการลงสนามทำศึกนัดที่ 25 ประจำฤดูกาล เมื่อกลางดึกของคืนวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดรังสนาม”โอล์ด แทรฟฟอร์ด”บดเอาชนะทีมเยือน เจ้านกนางนวล”ไบร์ทตัน”ไปได้อย่างไม่ยากเย็นที่สกอร์ 2-0 โดย”คริสเตียโน โรนัลโด้”กลับมาลั่นสกอร์ให้กับทีมได้อีกครั้งหลังจากเท้าบอดมาหกนัดติดต่อกัน ส่งผลให้ทีมเก็บสามแต้มพร้อมขยับแซงคู่ต่อสู้หลายทีมขึ้นไปครองอันดับสี่บนตารางคะแนนเป็นการชั่วคราว ส่วนผู้ปราชัยยังคงเกาะกลุ่มอยู่กลางตาราง

ปีศาจแดง อัดนกนางนวลยับ 

      ทางด้านตัวผู้เล่นในนัดนี้ ปีศาจแดง เจ้าถิ่นส่ง”คริสเตียโน่ โรนัลโด้”ลงยืนเป็นหน้าเป้าเช่นเดิม แม้จะเท้าบอดมาหลายนัดติดแล้วก็ตาม ส่วนเกมรุกซ้าย/ขวา เป็นงานของ”เจดอน ซานโช่”กับดาวรุ่งดวงใหม่”แอนโธนี่ อีแลงก้า” และมี”บรูโน่ เฟอร์นานส์”,”เฟรด”และ”สก็อต แม็คโทมิเนย์”ร่วมดูแลเกมในแดนกลางให้กับทีม ทางด้านทีมเยือนของกุนซือ”เกรแฮม พ็อทเตอร์”ใช้งาน”เลโอนาร์โด ทรอสซาด”จับคู่กับ”นีล โมเปย์”ร่วมด้วยช่วยกันไล่ล่าประตูในแดนหน้า

     เกมในครึ่งแรก ทีมเยือนมาสู้กับเจ้าถิ่นได้เป็นอย่างดี ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ และเป็น”ดาวิด เดเคอา”นายทวารสเปน ที่ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยไม่ให้ทีมเสียประตู ก่อนจะจบครึ่งแรกกันไปด้วยผลสกอร์ 0-0

    ครึ่งหลัง เจ้าบ้านปรับหมากมาดี เริ่มเกมเพียงแค่หกนาที…”คริสเตียโน่ โรนัลโด้”ก็เบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้สำเร็จ ส่งให้ทีมออกนำไปก่อน 1-0 และเมื่อถึงนาทีที่ 54 ทีมเยือนก็ต้องเหลือเพียงแค่ 10 คนจากจังหวะโดนใบแดงของ”ลูอิส ดั๊งค์”ปราการหลัง ต่อจากนั้นปีศาจฺแดงอาศัยความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเป็นฝ่ายครองเกมไว้ฝ่ายเดียว แต่กว่าจะมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาด ก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 90+7 จากฝีเท้าของ”บรูโน่ เฟอร์นานส์”ห้องเครื่องชาวโปรตุเกส และเมื่อหมดเวลาการแข่งขันจึงเป็นอันว่า”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”เปิดบ้านเอาชนะ”ไบร์ทตัน”ไปได้อย่างสบายเท้าด้วยสกอร์ 2-0

    และสถานการณ์หลังจากจบนัดนี้ของทั้งสองทีม ผู้ชนะ”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 บนตารางคะแนนได้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากลงสนามมากกว่าคู่แข่งรายอื่นอยู่หลายทีมและหลายนัด ด้วยผลงานลงเตะ 25 นัด ชนะ 12 เสมอ 7 แพ้ 6 ทำไปได้ 43 คะแนน กลับมามีลุ้นพื้นที่ไปเตะฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ฤดูกาลหน้าอย่างเต็มตัว ส่วนผู้ปราชัย”ไบร์ทตัน”อยู่อันดับที่ 9 จากผลงานการลงเตะ 25 นัด ชนะ 7 เสมอ 12 แพ้ 5 ทำไปได้ 33 คะแนน ถือว่าเป็นทีมจอมเสมอในฤดูกาลนี้ของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง  

ติดตามข่าวสารได้ที่ pacificsc.org

เบิร์นลีย์ รับศึกหนัก จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮอท สเปอร์ส ที่กำลังมั่นใจ กับโปรแกรมฟุตบอลวันนี้  วันนี้ วันพฤหัสบดี ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 02.30 น. (คืนวันพุธ) ตามเวลาประเทศไทย สานต่อความมันส์ กับฟุตบอลลีกที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ ฟาดแข้งกันอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง เบิร์นลีย์ – ท็อตแนม ฮอท สเปอร์ส

• เบิร์นลีย์ ที่คุมทีมโดยกุนซือ ฌอน ไดจ์ กุนซือชาวอังกฤษ คาดว่าจะจัดทัพมาในแผน 4-4-2

เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็น นิค โป๊ป ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วยแบ็คขวาเป็นโรเบิร์ต ส่วนแบ็คซ้ายเป็นพีเตอร์ส โดยคู่เซนเตอร์เป็นการจับคู่กันของคอลลินส์ จะจับคู่กับเบน มี

ขยับขึ้นมาแดนกลาง ที่คอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า เป็นการประสานงานกันของบราวน์ฮิล โดยจะจับคู่กับ แจ็ค คอร์ก และมีผู้เล่นริมเส้น 2 ฝั่ง ที่คอยสร้างสรรค์เกมจากด้านข้าง ปีกขวาเป็นอาร่อน เลนน่อน ส่วนปีกซ้ายเป็นหน้าที่ของแม็คนีล ที่จะป้อนโอกาสให้กับคู่กองหน้าอย่าง คอร์เน็ต และเวิร์กโฮสต์ โดยจะร่วมกันปิดบัญชีให้กับทีม

• ท็อตแนม ฮอท สเปอร์ส ที่คุมทีมโดยกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน คาดว่าจะจัดทัพมาในแผน 3-4-3

เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็น ฮูโก้ ยอริส ลงเฝ้าเสา กองหลัง 3 คน ประกอบด้วย กองหลังฝั่งขวาเป็นคริสเตียน โรเมโร่ กองหลังฝั่งซ้ายเป็น เบน เดวิส ส่วนปราการหลังตัวกลางเป็นเอริค ดายเออร์ ลงประจำการ ด้านวิงแบ็คขวาเป็นแม็ค โดเฮอร์ตี้ ส่วนวิงแบ็คซ้ายเป็นเซสเซยง

ขยับขึ้นมาแดนกลาง คู่กองกลางที่คอยเชื่อมเกมจากแดนหลังสู่แดนหน้า และคอยประสานงานกันเป็นปิแอร์ เอมีล ฮอยเบิร์ก และเบนทันคัวร์ ที่จะทำเกมสนับสนุน 3 ตัวรุกแดนบน ที่มี ลูคัส มูร่า เป็นหน้าขวา ซอน เฮือง มิน เป็นหน้าซ้าย ส่วนกองหน้าเป็น แฮร์รี่ เคน ที่จะคอยปิดบัญชีให้กับทีม

วิเคราะห์บอล เบิร์ฺนลีย์ – ท็อตแนม ฮอท สเปอร์สเมื่อ วิเคราะห์บอล จากสภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ฝั่งเจ้าบ้าน เบิร์ฺนลีย์ จะไม่มีวีดร้า ที่บาดเจ็บ ส่วนเวสต์วู้ด, ทาคอฟสกี้ และกุดมุนสันไม่ฟิต ด้านเวิร์กฮอสต์, คอร์เน็ต, เทย์เลอร์ ต้องรอเช็คอาการบาดเจ็บอีกที ส่วนทีมเยือน ท็อตแนม ฮอท สเปอร์ส จะไม่มีแทนกานก้า และสคิป ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนเรกิลอน ไม่พร้อมลงเล่น เชื่อว่าเกมนี้สเปอร์สบุกชนะได้

สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ pacificsc.org

วัตฟอร์ด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ กับโปรแกรมฟุตบอลวันนี้  วันนี้ วันพฤหัสบดี ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 02.30 น. (คืนวันพุธ) ตามเวลาประเทศไทย สานต่อความมันส์ กับฟุตบอลลีกที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ ฟาดแข้งกันอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง วัตฟอร์ด – คริสตัล พาเลซ

• วัตฟอร์ด ที่คุมทีมโดยกุนซือ รอย ฮอดสัน กุนซือชาวอังกฤษ คาดว่าจะจัดทัพมาในแผน 4-3-3

เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็น เบน ฟอร์สเตอร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย แบ็คขวาเป็นเฟมีเนีย ส่วนแบ็คซ้ายเป็นคามาร่า ด้านคู่เซนเตอร์เป็นการจับคู่กันของคาบาเซเล่ จะจับคู่กับแคทคาร์ท

ขยับขึ้นมาแดนกลาง กองกลางที่คอยปักหลักอยู่ตรงกลาง และเชื่อมเกมจากแดนหลังสู่แดนหน้า ก็คือ ลุยซ่า  ขนาบข้างด้วย 2 กองกลาง ทอม เคลฟเวอร์รีย์ และซิสโซโก้ ส่วนตัวรุก 3 ตัวบน ผู้เล่นริมเส้นสองฝั่ง ฝั่งซ้ายและขวาคอยสร้างเกมจากด้านกว้าง ปีกขวาเป็นซาร์ และปีกซ้ายเป็นเดนนิส และกองหน้าตัวเป้าเป็นโจชัว คิง ที่คอยปิดบัญชี

• คริสตัล พาเลซ ที่คุมทีมโดยกุนซือ แพทริก วิเอร่า กุนซือชาวฝรั่งเศส คาดว่าจะจัดทัพมาในแผน 4-3-3

เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็น แจ็ค บัตแลนด์ ที่ได้โอกาสลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย แบ็คขวาเป็นโจเอล วอร์ด ส่วนแบ็คซ้ายเป็นมิทเชลล์ ด้านคู่เซนเตอร์เป็นการจับคู่กันของนักเตะดาวรุ่งทั้งคู่เป็นมาร์ค กูเอฮี จะจับคู่กับโจคิม แอนเดอร์เซ่น

ขยับขึ้นมาแดนกลาง กองกลาง 3 คน ที่คอยช่วยกันเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับ มีฮิวส์ ยืนปักหลักตรงกลาง ขนาบข้างด้วยกูยาเต้  และเจ้าหนูคอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ยืมตัวมาจากเชลซี ที่จะคอยทำเกมสนับสนุน 3 กองหน้า ที่มีหน้าซ้ายเป็นวีลฟรีด ซาฮา หน้าขวาเป็นโอลิเซ่ และกองหน้าตัวเป้าเป็นเอดูอาร์ด

วิเคราะห์บอล วัตฟอฺร์ด – คริสตัล พาเลซ

เมื่อ วิเคราะห์บอล จากสภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ฝั่งเจ้าบ้าน วัตฺฟอร์ด จะไม่มีซาเมียร์ และเอ็นคูลู ที่มีอาการบาดเจ็บ ด้านโรส ไม่พร้อมลงเล่น ส่วนเปโดร, เอเตโบ้ และคุชก้า ต้องรอเช็คอาการบาดเจ็บอีกที ด้านทีมเยือน คริสตัล พาเลซ จะไม่มีนาธาน เฟอร์กูสัน ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนวิเซนเต้ กวยต้า ผู้รักษาประตูสุดเซฟ ต้องรอเช็คอาการอีกที เชื่อว่าเกมสุดสูสีแบบนี้ น่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไป

อ่านต่อได้ ที่นี่